ภาษาอีสานน่ารู้🧸🧸

     ภาษาท้องถิ่นในประเทศของเราไม่ว่าจะเป็น ภาษาเหนือ, ภาษาใต้ หรือภาษาอีสาน ทุกภาษานั้นล้วนเป็นคำพูดเป็นเอกลักษณ์ มีเสน่ห์ในตัวเอง เวลาฟังหรือพูดก็จะทำให้รู้ว่าภาษาในแต่ละท้องถิ่นมีความสละสลวยเพียงใด
     ซึ่งวันนี้เราจะมาเรียนรู้ภาษาถิ่นอีสานกัน ว่าแต่ละคำของภาษาอีสานนั้นมีความเป็นเอกลักษณ์อย่างไรบ้าง

1.กระจาด คือ ภาชนะที่สานด้วยไม้ไผ่ รูปเตี้ย ปากกว้าง สำหรับใส่สิ่งของที่ซื้อมาจากตลาด หรือใส่เครื่องกัณฑ์เทศน์มหาชาติ

2.กระติบ คือ ข้าวก่องใส่ข้าวเหนียวสุก

3.กระโบม คือ ภาชนะชนิดหนึ่งทําด้วยไม้นำมาขุดเป็นรูปวงกลมมีขอบ ด้ามสั้น สำหรับสงข้าวเหนียวที่นึ่งสุกใหม่ ๆ หรือคนข้าวเหนียวนึ่ง ให้ลดความร้อนก่อนนำไปใส่ในกล่องข้าว และยังใช้เป็นภาชนะรองถ้วยชามเป็นสำรับ

4.กระป่อม คือ (ตาข่ายดักปลา)ลำเผือกหรือลำสะโน ไม้สองชนิดนี้มีน้ำหนักเบา ตัดยาวขนาดคืบผูก เชือกห่างกันประมาณ 1 ศอก ขึงในเวลากางมอง

5.กลับเฮียน คือ กลับบ้านน

6.ก่องจ่อง คือ การกระทำที่ดูแล้วไม่เข้าท่า หรือว่ายังไม่ชำนาญ อาการที่หลังของเด็กขด เรียก ขดก่องจ่อง ถ้าหลังผู้ใหญ่ว่า ขดโก่งโจ่ง ก่งจ่ง

7.กะเซอะกะเซิง คือ ฟูไม่เป็นระเบียบเรียบร้อย

8.กะด้อกะเดี่ย คือ อะไรจะขนาดนั้น,มากมาย , มากเกินไป, ออกหน้าออกตา

9.กะปอม,ขี่กะปอม,ขี้กะปอม คือ กิ้งก่า

10.กะโป๋ คือ กะลามะพร้าว

11.กะเลิงเบิ๊บ,กะโลกกะล๊าก คือ เฉิ่ม,ม้าดีดกระโหลก,กะโหลกกะลา

12.ขาเลาะ คือ คนที่ชอบเที่ยวเตร่ไปเรื่อย ส่วนมากจะใช้กับวัยรุ่นหนุ่มสาวที่ชอบเตร็ดเตร่ เที่ยวเล่นสนุกสนาน

13.ข้าวต้มแดก คือ เป็นขนมหวาน คล้ายกับข้าวต้มมัด แต่ต่างกันตรงที่ข้าวต้มแดกจะใช้ข้าวเหนียวแช่น้ำค้างคืน ตำผสมกับกล้วยสุกบด แล้วห่อด้วยใบตอง คำว่า แดก ในภาษาอีสานจะหมายถึงการตำ, อัดให้แน่น, ยัดเข้าในภาชนะ เช่น ปลาแดก, ข้าวต้มแดก เป็นต้น

14.ขี่กระบอง,ขี้ใต้ คือ ไม้ผุผสมกับน้ำมันยางธรรมชาติใช้จุดไฟแทนตะเกียงน้ำมัน

15.ขี้กะตก , ขี้ตก ,ขี้โป้ คือ ยางของต้นไม้ที่หล่นลงตามพื้นดิน ใช้เป็นเชื้อเพลิงได้

16.ขี้กะตืก คือ พยาธิขี้

17.ขี้กะตู่,เขียดกะตู่,ขี้คันคาก,ขี่คั่นคาก คือ คางคก

18.คนไค คือ คนพอใช้ได้ คนที่ดูด คนน่ารัก คนหน้าตาดี

19.คนฮู้ผู้ดี คือ เป็นคนที่นิสัยดี,เรียบร้อยคน

20.ควย คือ โยก,โยกเยก,โคลงเคลง

21.ควย (ควาย) คือ ควาย

22.ควยตู้ คือ ควายทุยเขาสั้น

23.ค่อย,ข่อย,ข้อย คือ ตัวเราเอง

24.ค่อยฮักเจ้า, ข่อยฮักเจ้า คือ ฉันรักเธอ

25.คึดฮอด คือ คิดถึง เรียก คึดฮอด อย่างว่า คึดฮอดน้องนอนกรองน้ำตาหลั่ง คันแม่นพังจั่งส้างซิเพม้างตั้งแต่ดน (กลอน) คึดฮอดน้องยามเมื่อโค็ยแข็ง บาดห่าโค็ยแข็งเซาบ่ให้เอากะได้

26.งอนต่อ คือ ท้ายทอย

27.งอย คือ ลักษณะการนั่ง หรือ เกาะอยู่บนที่สูงง

28.งัว คือ วัว

29.งานดอง คือ งานแต่งงานงาน

30.งามโพดงามเหลือ คือ งามแท้งามว่าสวยจริงสวยจัง สุดจะพรรณา

31.จอบเบิ่ง คือ แอบดู

32.จัก (กี่) คือ กี่

33.จัก (ไม่รู้) คือ ไม่รู้จัก

34.จั๊กกะเดียม คือ จั๊กกะจี้

35.จักเทื่อ คือ สักครั้ง

36.ซู่มื้อ คือ ทุกวัน

37.แซบ คือ อร่อย, รสชาติดี ใช้กับอาหารที่มีรสอร่อย โดยทั่วไปจะพบเห็นคำว่า แซ่บ มากกว่าคำว่า แซบ ซึ่งสำเนียงอีสานจะออกเสียงลากยาว จะไม่ได้ออกเสียงสั้นเหมือนอย่างที่เห็นกันทั่วไปตามสื่อ ดังนั้นที่ถูกต้องจึงเขียนว่า แซบ ไม่ใช่ แซ่บ

38.ไซดักปลาไหล คือ เครื่องมือดักปลาไหล มีลักษณะคล้ายแจกัน มีไส้ในสำหรับใส่เหยื่อทำจากไม้ไผ่สานมีรูปร่างสวยงาม ใช้สำหรับดักปลาไหลโดยเฉพาะ กู้อีจู้, สุ่มดักปลาไหล, ตุ้มใส่ปลาไหล, อีจู้, ลัน ก็เรียก

39.ดังไฟ คือ ก่อไฟ

40.ดาก คือ ก้น , ตูด , ส่วนท้าย ปลายลำไส้ใหญ่ที่ทวารหนัก เรียก ดาก อย่างว่า ซ่าเพิ่นซ่าดี ซ่าโตซ่าหีติดดาก (ภาษิต) ดินเหนียวสีแดงเรื่อๆ หรือสีเหลืองอ่อน เรียก ดินดาก.

41.ดาง คือ ตาข่ายที่สานด้วยปอ ป่าน เรียก ดาง เช่น ดางแห ดางหวิง ดางมอง หรือสิ่งที่มีลักษณะเหมือนตาข่ายเรียก ดาง เช่น รวงผึ้งเรียก ดางเผิ้ง อย่างว่า ให้ค่อยทำเพียรสร้างเสมอแตนสร้างช่อ ให้ค่อยติดต่อไว้เสมอเผิ้งต่อดาง (อิน).

42.ตาฮัก คือ ตาแพงน่ารัก น่าเอ็นดู

43.ตำบักหุ่ง คือ ส้มตำ

44.ตำอิด,ตำก่อ คือ แต่ก่อน , ตอนแรก , เริ่มต้น , แต่ไหนแต่ไร,นานมาแล้ว

45.ตื่น คือ 1.)ตกใจ 2.)ฟื้นจากหลับ เรียก ตื่น อย่างว่า ให้ตื่นแต่เดิก ให้เศิกแต่หนุ่ม ให้ตื่นเดิกคือกา ให้หากินคือไก่ ตื่นแต่เช้ากินข้าวกับปลา ตื่นสวยกินขวยขี้ไก่โป่ (ภาษิต).

46.ถิ่ม คือ ทิ้ง

47.ถืก คือ ถูก

48.ท้าว คือ คำแทนใช้นำหน้าเรียกคน

49.เนื้อแดดเดียว คือ อาหารอีสานที่ทำจากเนื้อวัว หมักด้วยเกลือ น้ำปลา แล้วนำไปตากแดดให้แห้ง สามารถนำไปทำอาหารำได้ทั้งทอด และย่าง

50.บัก คือ คําเรียกชายที่เสมอกันหรือต่ำกว่า

51.บักเขียบ คือ น้อยหน่า (ผลไม้

52.บักแงวคือ คอแลน เป็นผลไม้ป่า ภายนอกเหมือนลิ้นจี่แต่ลูกเล็กประมาณองุ่น เนื้อด้านในเหมือนเนื้อเงาะแต่รสชาติเหมือนลิ้นจี่ รสชาติเปรี้ยวนำหวาน เมล็ดเหมือนเงาะ

53.บืน คือ เสือกไป ไสไป คืบไป ใช้อกเสือกไป เรียก บืน เช่น งูบืน ปลาบืน อย่างว่า มันหากเหลือแฮงแล้วปลาบืนยามเดือนสี่ เงี่ยงกะหลุ้ยคุยกะล้มปานนั้นว่าบ่บืน (กลอน).

54.บุญผลา คือ บุพเพสันนิวาส,พรหมลิขิต

55.ปลาแดกบองคือ ปลาร้าทรงเครื่อง, ปลาร้าบอง เป็นการนำปลาร้ามาปรุงรสด้วยพริกป่น, ข่าสับ, ใบมะกรูดซอย, ตะไคร้ซอย บางท้องที่ใส่มะเขือเทศด้ว

56.ป้อยด่า คือ ด่า

57.ไปเฮ็ดเวียก คือ ไปทำงาน

58.ผักปูลิง คือ ชะพลู, ใบชะพลู เป็นพืชในวงศ์ Piperaceae มักสับสนกับพลู แต่ใบรสไม่จัดเท่าพลูและมีขนาดเล็กกว่า ชะพลูเป็นพันธุ์ไม้ที่ชอบพื้นที่ลุ่ม มีความชื่น ขยายพันธุ์ด้วยวิธีการปักชำ โดยการเลือกกิ่งที่มีใบอ่อนและใบแก่ เด็ดใบแก่ออกและนำไปปักชำได้ ผักแค, ผักอีเลิด, ผักนางเลิด ก็เรียก

59.ผักอีเลิด คือ ชะพลู, ใบชะพลู เป็นพืชในวงศ์ Piperaceae มักสับสนกับพลู แต่ใบรสไม่จัดเท่าพลูและมีขนาดเล็กกว่า ชะพลูเป็นพันธุ์ไม้ที่ชอบพื้นที่ลุ่ม มีความชื่น ขยายพันธุ์ด้วยวิธีการปักชำ โดยการเลือกกิ่งที่มีใบอ่อนและใบแก่ เด็ดใบแก่ออกและนำไปปักชำได้ ผักแค, ผักปูลิง, ผักนางเลิด ก็เรียก

60.ผู้ฮ้าย คือ ขี้เหร่, ไม่สวย, ไม่หล่อ, หน้าตาไม่ดี

61.ไผ คือ ใคร

62.พ้อ คือ พบ

63.พอกะเทิน คือ ไม่มากไม่น้อย ครึ่งๆกลางๆ

64.พาโล คืแ มากเกินงาม ,เกินไป

65.เพิ่น คือ คนอื่น, เขา (คนที่กำลังถูกพูดถึง)

66.เมิดคำสิเว้า คือ ไม่มีอะไรจะพูด/พูดไม่ออก

67.เมือบ้าน คือ กลับบ้าน

68.แมงกินูน คือ แมลงนูน แมลงนูนเขียวเป็นด้วงที่มีสีสันสวยงามเป็นที่สนใจแก่ผู้พบเห็น อาหารตัวเต็มวัยได้แก่ใบไม้พืชในวงศ์ ตะแบก ( Lythraceae ) แต่หากนำมาเพาะเลี้ยงสามารถให้กล้วยเป็นอาหาร เขตแพร่กระจาย ตั้งแต่อินเดีย พม่า ลาว กัมพูชา และทั่วทุกภาคของประเทศไทย โดยจะมีระยะการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญ 4 ระยะ คือ ระยะไข่ ระยะตัวอ่อนหรือหนอน ระยะดักแด้ ระยะตัวเต็มวัย ตัวหนอนมีขาสามคู่ ไม่มีขาเทียม ตัวเต็มวัยมีสีเขียววาว มีสวนขอบของส่วนหัว ลำตัวและปีกเป็นสีทองแดงด้านใต้ท้องและส่วนขามีสีทองแดง มีระยางค์สัมผัสที่ส่วนหัว 2 คู่ มีกราม 2 คู่ และหนวด 1 คู่ แบบใบไม้ Lamellate แมลงนูนเขียวยังเป็นแมลงที่ได้รับความสนใจของผู้เลี้ยงแมลงในกลุ่มด้วงจากต่างประเทศ และมีการนำแมลงนูนเขียวมาบริโภคเป็นอาหาร แมงจินูน, แมงอีนูน ก็เรียก

69.ย่าง คือ เดิน

70.ย่างสาก คือ เดินผ่าน เดินไปใกล้ๆ ในระยะสายตา

71.ย่าน คือ กลัว

72 ยาม คือ ฤดู หรือ ช่วงเวลาต่างๆ

73.ลายต่าง คือ แตกต่างอย่างสิ้นเชิง หรือ เปลี่ยนแปลงไปลายต่าง169ลำลี่ ลำไลเซ้าซี้ มากเรื่อง

74.เลาะ คือ 1. แวะรายทาง, เตร็ดเตร่ไปเรื่อย 2. เลียบไปตามชายฝั่ง

75.แลน คือ วิ่ง

76.สวอย คือ หมดเรี่ยวแรง สิ้นกำลัง

77.สะออน คือ เป็นภาษาพูด (ควมเว้า) ของชาวอีสาน มีความหมายว่า ชอบใจ, พอใจ, ติดใจ, ปลื้ม, น่าชมเชย

78.สายแนน คือ คู่ครองที่เคยอยู่กินกันมาหลายภพหลายชาติ, บุพเพสันนิวาส, เนื้อคู่ กกแนน ก็เรียก

79.สิบสิฮ่าง ซาวสิฮ่าง คือ อะไรจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างไรก็ตาม

80.แสบบักหูก คือ อาการกรดไหลย้อน หรือ สำนวน หมายถึง เจ็บใจ เจ็บปวดหัวใจ แสลงใจ

81.หงำ คือ บัง, ข่ม, ครอบ

82.หนหวย คือ รำคาญ, ไม่สบายใจ, หงุดหงิด, กังวลใจ

83.หน้าถั่งดังคม คือ หน้าตาคมขำ, หน้าตาดี

84.หนานผัก คือ แปลงผัก, แปลงปลูกผัก

85.หลูโตน คือ (กริยา) สงสาร รู้สึกเห็นใจในความเดือดร้อนหรือความทุกข์ของผู้อื่น, รู้สึกห่วงใยด้วยความเมตตากรุณา, เช่น เห็นเด็ก ๆ อดอยากก็รู้สึกสงสาร เห็นเขาประสบอัคคีภัยแล้วสงสาร

86.อ้าย คือ พี่ชาย

87.อีหลี คือ จริงๆ

88.โอ้กโลก คือ เปื้อน, มอมแมม มักใช้ขยายความสกปรก ซึ่งจะหมายถึงมอมแมมมาก ๆ ลักษณะการทาแป้งหรือสิ่งที่คล้ายแป้งมากเกินไป

89.โอ้นโต้น คือ ลักษณะของสิ่งที่ห้อยลงมา, โตงเตง

90.ฮ่าง คือพัง ชำรุด เสียหาย

91.ฮ้าง คือ ทอดทิ้ง จากไป เมียที่ผัวทอดทิ้ง เรียก แม่ฮ้าง ผัวที่เมียทอดทิ้ง เรียก พ่อฮ้าง หนุ่มสาวที่รักกันแล้วทอดทิ้งกันไป เรียก ฮ้างชู้ บ้านที่คนทอดทิ้ง เรียก บ้านฮ้างเรือนที่ไม่มีคนอยู่อาศัย เรียก เฮือนฮ้าง วัดที่ไม่มีพระสงฆ์อยู่ เรียก วัดฮ้าง อย่างว่า ญิงชายฮู้เฮียงกลการย่อยโชค ส่ำฮ้างฮามหม้ายหมู่สะเทิน (สังข์) คันหากมีผัวแล้วบ่กลัวใผอย่าฟ้าวว่า บาดห่าเป็นฮ้างหม้ายชิมาโอ้ใส่เขา (ผญา)

92.แฮกเสี่ยว คือ ผูกมิตร การผูกมิตร เรียก แฮกเสี่ยว คำว่า เสี่ยว ได้แก่ มิตร สหาย เพื่อน หรือ เกลอ การผูกเสี่ยวจะทำเป็นพิธีเสียเหล้าไหไก่ตัวเพื่อเลี้ยงดูกัน หรือคนสองคนเมื่อสมัครรักใคร่กันแล้วผูกข้อต่อแขนด้วยด้ายเพียงสองเส้นก็ได้ ผู้หญิงจะเป็นเสี่ยวกับผู้ชาย หรือผู้ชายจะเป็นเสี่ยวกับผู้หญิงก็ได้ ขออย่างเดียวขอให้รักสมัครสมานประสานสามัคคีกันไปจนตลอดชีวิต การผูกเสี่ยวเป็นประเพณีที่ชาวอีสานนับถือมาแต่ดึกดำบรรพ์ ผ๔้เป็นเจ้าของประเพณีนี้ก็คือบรรพบุรุษอีสาน ถือว่าท่านฉลาดและหลักแหลมนัก ถ้าโลกทั้งโลกเป็นมิตรสหายกัน เรื่องฆ่าตีบีฑ์โบยลักเล็กขโมยน้อย หรือเรื่องวิวาทบาดหมางแย่งอำนาจวาสนากันคงไม่เกิดขึ้นแน่ ถ้าคนในโลกนี้เกี่ยวข้องกันในการเป็นมิตรสหายกัน


แหล่งที่มา
https://www.wordyguru.com












ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น